สำนักงานนวัตกรรม แห่งชาติพบสมุนไพรพื้นบ้าน "คาวตอง" มีคุณสมบัติพิเศษในการรักษา การติดเชื้อ
ต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ เพื่อพัฒนาเป็นยาต้านเชื้อหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุของค์การอนามัยโลกยอมรับการแพร่ระบาดของเชื้อหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 อยู่เหนือความคาดหมาย และพบนัยใหม่ คนวัย 50 อัพ ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ แต่เด็ก-คนวัยทำงาน
กลับเสี่ยงติดเชื้อและตายมากกว่า เหตุเพราะขาดภูมิต้านทาน
เชื่ออนาคตเชื้อหวัดมรณะจะดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ ส่วนหมอไทยชี้เส้นทางแพร่ระบาดของเชื้อหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
ผกผันกับเชื้อหวัดนก คือเริ่มจากเมืองสู่ชนบท เตือนกรุงเทพฯ
จะรับมือการแพร่ระบาดได้ยาก ระบุโรงเรียนเป็นแหล่งที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษ
ในขณะที่ทั่วโลกยังคงผวากับการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เกิดจากเชื้อเอ/ เอช 1 เอ็น 1 เนื่องจากเชื้อหวัดมรณะนี้ยังคร่าชีวิตพลเมืองของนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่มีวัคซีน หรือยารักษาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ว่า จากการเปิดเผยของนายศุภชัยหล่อโลหการ ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ว่า ขณะนี้ สนช. สนับสนุนงบประมาณการวิจัยพืชสมุนไพรทางการแพทย์ เพื่อรักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดต่างๆ รวมทั้งเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ล่าสุดได้มีการค้นพบสมุนไพรพื้นบ้านที่เรียกว่า "คาวตอง" หรือ "ภูคาว" ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านของไทยตระกูลเดียวกับพลู พบมากทางภาคเหนือของประเทศ ลักษณะเป็นพืชล้มลุกชนิดเถา มีกลิ่นค่อนข้างคาวเหมือนคาวปลา แต่มีคุณสมบัติพิเศษในการรักษาการติดเชื้อ รักษาแผล รักษามะเร็ง ต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ สมุนไพรดังกล่าวชาวบ้านทางภาคเหนือนำไปเป็นส่วนผสมของอาหาร แต่ไม่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีกลิ่นแรง ไม่หอมเหมือนใบโหระพาและกระเพรา ด้าน รศ.ดร.นพ.กำพล กล่าวว่า เตรียมหารือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อศึกษาคุณสมบัติของคาวตอง ว่าสามารถนำมาพัฒนาเป็นยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้หรือไม่ เชื่อว่าจะสามารถต้านเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆได้เช่นกัน โดยเฉพาะเชื้อเอชไอวี โดยอาจต้องใช้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น เช่น ฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีคุณสมบัติเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย และในต้นเดือน มิ.ย.นี้ จะหารือกับกลุ่มแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อที่จะพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ในขณะที่ทั่วโลกยังคงผวากับการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เกิดจากเชื้อเอ/ เอช 1 เอ็น 1 เนื่องจากเชื้อหวัดมรณะนี้ยังคร่าชีวิตพลเมืองของนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่มีวัคซีน หรือยารักษาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ว่า จากการเปิดเผยของนายศุภชัยหล่อโลหการ ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ว่า ขณะนี้ สนช. สนับสนุนงบประมาณการวิจัยพืชสมุนไพรทางการแพทย์ เพื่อรักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดต่างๆ รวมทั้งเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ล่าสุดได้มีการค้นพบสมุนไพรพื้นบ้านที่เรียกว่า "คาวตอง" หรือ "ภูคาว" ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านของไทยตระกูลเดียวกับพลู พบมากทางภาคเหนือของประเทศ ลักษณะเป็นพืชล้มลุกชนิดเถา มีกลิ่นค่อนข้างคาวเหมือนคาวปลา แต่มีคุณสมบัติพิเศษในการรักษาการติดเชื้อ รักษาแผล รักษามะเร็ง ต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ สมุนไพรดังกล่าวชาวบ้านทางภาคเหนือนำไปเป็นส่วนผสมของอาหาร แต่ไม่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีกลิ่นแรง ไม่หอมเหมือนใบโหระพาและกระเพรา ด้าน รศ.ดร.นพ.กำพล กล่าวว่า เตรียมหารือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อศึกษาคุณสมบัติของคาวตอง ว่าสามารถนำมาพัฒนาเป็นยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้หรือไม่ เชื่อว่าจะสามารถต้านเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆได้เช่นกัน โดยเฉพาะเชื้อเอชไอวี โดยอาจต้องใช้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น เช่น ฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีคุณสมบัติเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย และในต้นเดือน มิ.ย.นี้ จะหารือกับกลุ่มแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อที่จะพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น